ในยุคปัจจุบัน เครื่องดื่มที่นิยมอย่างแพร่หลายทั้งในหมู่วัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่คงหนีไม่พ้น ชาเขียว เพราะด้วยความที่มีรสชาติอร่อยและมีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ จึงสามารถครองใจผู้ดื่มได้แทบทุกช่วงวัย อย่างไรก็ดี คุณเคยสงสัยกันหรือไม่ว่าการดื่มชาเขียวดีต่อสุขภาพคุณอย่างไร เราลองมาดู 10 คุณ ประโยชน์ของชาเขียว ดังต่อไปนี้ที่คุณอาจยังไม่เคยรู้
มีการค้นพบว่า การดื่มชาเขียวสามารถช่วยป้องกันการก่อตัวขึ้นของคราบพลัค (Plaque) โดยมีความเชื่อมโยงกับการเป็นโรคอัลไซเมอร์และพาร์กินสันซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบประสาท ดังนั้นการดื่มชาเขียววันละหนึ่งถึงสองแก้วต่อวันอาจช่วยป้องกันอัลไซเมอร์ โรคร้ายดังกล่าวได้
ชาเขียวมีสรรพคุณช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้เสถียรในผู้ป่วยโรคเบาหวาน อีกทั้งการดื่มชาเขียวสามารถช่วยกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนอินซูลินในตับอ่อนและช่วยดูดซึมกลูโคสในผู้ป่วยเบาหวานประเภท 1 ตลอดจนช่วยลดน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้นอย่างฉับพลันในผู้ป่วยเบาหวานประเภท 2
4. ดีต่อสุขภาพปาก
การดื่มชาเขียวสามารถช่วยทำให้สุขภาพช่องปากดีขึ้นและลดความเสี่ยงที่จะเกิดฟันผุ เนื่องจากในชาเขียวอุดมไปด้วยสารโพลีฟีนอล (Polyphenols) และแคทีชิน (Catechins) ซึ่งมีฤทธิ์ในการฆ่าแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดฟันผุ กลิ่นปาก และโรคเหงือก
การดื่มชาเขียวสามารถช่วยทำให้สุขภาพช่องปากดีขึ้นและลดความเสี่ยงที่จะเกิดฟันผุ เนื่องจากในชาเขียวอุดมไปด้วยสารโพลีฟีนอล (Polyphenols) และแคทีชิน (Catechins) ซึ่งมีฤทธิ์ในการฆ่าแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดฟันผุ กลิ่นปาก และโรคเหงือก
5. ควบคุมน้ำหนัก
มีหลายผลการศึกษาพบว่า การดื่มชาเขียววันละแก้ว สามารถช่วยลดไขมันในร่างกายได้โดยเฉพาะไขมันส่วนท้อง รวมถึงช่วยควบคุมน้ำหนักอีกด้วย นอกจากนี้ชาเขียวยังมีสารแคทีชิน (Catechins) ที่ช่วยสร้างความร้อนในร่างกาย ส่งผลให้เผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้น
มีหลายผลการศึกษาพบว่า การดื่มชาเขียววันละแก้ว สามารถช่วยลดไขมันในร่างกายได้โดยเฉพาะไขมันส่วนท้อง รวมถึงช่วยควบคุมน้ำหนักอีกด้วย นอกจากนี้ชาเขียวยังมีสารแคทีชิน (Catechins) ที่ช่วยสร้างความร้อนในร่างกาย ส่งผลให้เผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้น
6. ป้องกันผมร่วง
หากใครกำลังประสบกับปัญหาผมร่วง การดื่มชาเขียวสามารถช่วยคุณได้ เนื่องจากชาเขียวอุดมไปด้วยสารแคทีชิน (Catechins) ที่ช่วยป้องกันการเกิดผมร่วงและมีสาร EGCG (Epigallocatechin gallate) ซึ่งมีบทบาทในการช่วยกระตุ้นการงอกของผม
หากใครกำลังประสบกับปัญหาผมร่วง การดื่มชาเขียวสามารถช่วยคุณได้ เนื่องจากชาเขียวอุดมไปด้วยสารแคทีชิน (Catechins) ที่ช่วยป้องกันการเกิดผมร่วงและมีสาร EGCG (Epigallocatechin gallate) ซึ่งมีบทบาทในการช่วยกระตุ้นการงอกของผม
ชาเขียวมีสารโพลีฟีนอล (Polyphenols) และสาร OPC (Oligomeric proanthocyanidins) ซึ่งจะช่วยปกป้องผิวคุณจากอนุมูลอิสระ โดยสารชนิดนี้จะช่วยต่อสู้กับปัญหาผิวต่าง ๆ ที่มาเยือนเมื่อคุณเข้าสู่วัยชรา ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอย จุดด่างดำ ฯลฯ อีกทั้งยังมีผลการศึกษาหนึ่งพบว่า การดื่มชาเขียวสามารถช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งผิวหนังได้
การดื่มชาเขียวเป็นประจำสามารถช่วยลดอาการความดันสูง ทั้งนี้มีผลการศึกษาหนึ่งพบว่า คนที่ดื่มชาเขียวหนึ่งหรือสองแก้วครึ่งเป็นประจำอย่างน้อยหนึ่งปีจะมีความเสี่ยงที่จะเกิดความดันโลหิตสูงต่ำลงถึง 46% เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้ดื่มชาเขียว
9. ป้องกันการเกิดมะเร็ง
คุณทราบหรือไม่ว่า ในชาเขียวมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพมากกว่าวิตามินซีและวิตามินอีถึง 100 เท่าและ 24 เท่าตามลำดับ อีกทั้งยังมีหลายผลการศึกษาพบว่าสารต่อต้านอนุมูลอิสระในชาเขียวสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะอาหาร เป็นต้น
คุณทราบหรือไม่ว่า ในชาเขียวมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพมากกว่าวิตามินซีและวิตามินอีถึง 100 เท่าและ 24 เท่าตามลำดับ อีกทั้งยังมีหลายผลการศึกษาพบว่าสารต่อต้านอนุมูลอิสระในชาเขียวสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะอาหาร เป็นต้น
10. ช่วยให้กระดูกแข็งแรง
ชาเขียวอุดมไปด้วยธาตุฟลูออไรด์ซึ่งเป็นหนึ่งในสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก อีกทั้งยังมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระและสารต่อต้านการอักเสบที่ช่วยป้องกันการสูญเสียมวลกระดูก ยิ่งไปกว่านั้น การดื่มชาเขียวเป็นประจำสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุนได้อีกด้วย หรือจะลองหาอาหารเสริมแคลเซียม มารับประทานก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกดีๆ
ชาเขียวอุดมไปด้วยธาตุฟลูออไรด์ซึ่งเป็นหนึ่งในสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก อีกทั้งยังมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระและสารต่อต้านการอักเสบที่ช่วยป้องกันการสูญเสียมวลกระดูก ยิ่งไปกว่านั้น การดื่มชาเขียวเป็นประจำสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุนได้อีกด้วย หรือจะลองหาอาหารเสริมแคลเซียม มารับประทานก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกดีๆ
ขอบคุณแหล่งข้อมูลจากเวป : parrythailand
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น