https://courseantiaging.blogspot.com/google.com,%20pub-3791389710662192,%20DIRECT,%20f08c47fec0942fa0 ทำไม!? นั่งธรรมดาๆมีโอกาสตายสูงขึ้น?

โพสต์แนะนำ

ทำไม!? นั่งธรรมดาๆมีโอกาสตายสูงขึ้น?

รูปภาพ

ผู้คนมักเข้าใจว่า
ปืนและมีดคือเพชฌฆาตทันควัน

ส่วนความดันโลหิตสูง
น้ำตาลในเลือดสูง
ไขมันในเลือดชนิดเลว (LDL) สูง
คือเพชฌฆาตผ่อนส่ง

#แท้จริงแล้ว

●เก้าอี้
●นี่แหละคือ
ฆาตกรอีกตัวหนึ่งที่มาแบบเงียบๆและ
เป็นพ่อของเพชฌฆาตผ่อนส่งข้างต้น

นิตยสาร Scientific American
ฉบับพฤศจิกายน 2014
รายงานว่างานศึกษาวิจัย 18 ชิ้น
ใน 16 ปีที่ผ่านมา
ซึ่งครอบคลุมประชากรทั้งหมด 800,000 คน

สรุปตรงกันว่า

เก้าอี้คือฆาตกร

ตัวอย่างเช่น
การศึกษาในปี 2010
ซึ่งรายงานไว้ในวารสาร Circulation
สำรวจผู้ใหญ่ 8,800 คน
เป็นระยะเวลา 7 ปี

สรุปว่า

คนที่นั่งมากกว่าวันละ 4 ชั่วโมงดูทีวี
เมื่อเทียบกับคนที่นั่งดูทีวีน้อยกว่า
วันละ 2 ชั่วโมงแล้ว
#มีโอกาสเสียชีวิตเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 46

งานศึกษาอื่นๆ พบว่า

การนั่งมากกว่าครึ่งวันในแต่ละวัน
ทำให้ความเสี่ยงจากการเป็นโรคเบาหวาน
โรคหัวใจ เพิ่มขึ้นหนึ่งเท่าตัว และ

โดยทั่วไปในภาพรวม
เมื่อคำนึงถึงสาเหตุของโรคต่าง ๆ
รวมกันแล้วก็พบว่า
เมื่อเปรียบเทียบกลุ่มคนที่นั่ง
กับกลุ่มคนที่กระฉับกระเฉงเดินไปมาแล้ว
คนกลุ่มแรกนี้มีโอกาสตายสูงกว่าถึงร้อยละ 50

ทำไมการแค่นั่งธรรมดา
ทำให้มีโอกาสตายสูงขึ้น?

คำตอบง่าย ๆ ก็คือ
การนั่งเป็นระยะเวลานานๆ
ไม่สอดคล้องกับการที่ร่างกายมนุษย์
ถูกออกแบบมา

ธรรมชาติสร้างให้มนุษย์เคลื่อนไหวเดินไปมา
มีความกระฉับกระเฉง

การนั่งนานๆ
อย่างไม่เคลื่อนไหว
ทำให้ระบบการทำงานเผาผลาญ
พลังงานของร่างกาย
ซึ่งทำให้อาหารที่บริโภคเข้าไป
ถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานทำงานช้าลง
เกิดการสะสมของไขมัน
ความอ้วน (obesity)
ตามมาจนนำไปสู่โรคหัวใจ
โรคเบาหวาน โรคไขข้ออักเสบ
และโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวพันกับ
การมีน้ำหนักเกินปกติ

การนั่งก็ไม่ใช่สิ่งที่ดี
สำหรับคนไม่อ้วนเช่นกัน เช่น
การนั่งหลังจากรับประทานอาหาร
นำไปสู่การพุ่งสูงขึ้นของน้ำตาลในเลือด
การเดินหลังอาหารสามารถ
ลดยอดที่พุ่งสูงขึ้นได้ครึ่งหนึ่ง

มนุษย์มีความเข้าใจผิดว่า
ปัญหาสุขภาพเกี่ยวพันกับ
การกินมากเกินไป

โดยมองข้าม

●การนั่งแบบเจ่าจุก
●ไปถ้าจะมองให้ไกลออกไป
ก็จะพบว่านิสัยอันเกิดจากความเคยชิน
ในเรื่องการเคลื่อนไหวร่างกายคือ
ปัจจัยสำคัญของบรรดาปัญหาสุขภาพ
ซึ่งนิสัยชอบเดินเคลื่อนไหวร่างกายมากกว่านั่ง
โดยไม่ทำอะไรบนเก้าอี้นั้น
แก้ไขง่ายกว่าการกินมากเกินไปด้วยซ้ำ

ในประเทศญี่ปุ่น
มีการรณรงค์ “10,000 ก้าวเพื่อสุขภาพ”
และลามไปสู่หลายประเทศในปัจจุบัน
เป้าหมายที่เป็นรูปธรรมนี้
เป็นที่นิยมซึ่ง 10,000 ก้าวนี้
ก็เท่ากับการเดินไม่ต่ำกว่า 6 กิโลเมตรต่อวัน

สำหรับคนไทย..
ที่ไม่ได้เดินขึ้นรถไฟไกลๆ
เหมือนคนญี่ปุ่นอาจทำได้ยาก
หากไม่มีความมุ่งมั่น

อย่างไรก็ดี
หลักฐานเรื่องปัญหาสุขภาพข้างต้น
ก็น่าจะเพียงพอต่อการเปลี่ยนพฤติกรรม
ที่ชอบนั่งมาเป็นยืนและเดินแทนแล้ว

นโปเลียน โบนาปาร์ต
มีชื่อเสียงในเรื่องการยืนทำงาน
กล่าวคือโต๊ะที่ทำงานมีความสูง
อย่างเหมาะต่อการยืนทำงาน
การไม่มีเก้าอี้ให้นั่ง
ทำให้คนที่เข้าพบใช้เวลาสั้น
จนเป็นการใช้เวลาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในปัจจุบันบริษัทใหญ่ของญี่ปุ่นบางแห่ง
ใช้การยืนประชุมแทนการนั่งเป็น ชั่วโมงๆ
ดังที่เคย และพบว่า
สามารถหาข้อตกลงได้ในเวลาที่สั้นกว่า และ

สอดคล้องกับหลักสุขภาพตาม
ที่ได้พบมาจากงานวิจัยอีกด้วย

มีการทดลองสร้างโต๊ะ
ทำงานสูงคร่อมสายพานเดิน
ที่มีความเร็ว 1-2 ไมล์ต่อชั่วโมง
ซึ่งทำให้คนทำงานต้องยืนและ
เดินช้าๆ อยู่ตลอดเวลา

ผู้ทดลองพบว่า
ทำให้สมองตื่นตัว
มีความเครียดน้อยลง
น้ำหนักลดลง ความดันโลหิตและ
น้ำตาลในเลือดลดลง

ข้อสรุปนี้ปรากฏในวารสาร Health Services Management Research ในปี 2011

ถ้าจะไปไกลถึงบรรพบุรุษของเรา
ก็พบว่าการเดินทำให้เรามีวันนี้กัน
นักชีววิทยา 2 คนคือ D.E. Lieberman
และ D.M. Bramble เขียนบทความลงวารสาร
Nature ในปี 2004 ชี้ให้เห็นว่าบรรพบุรุษ
ของเราที่สืบทอดลูกหลานมาถึงทุกวันนี้ได้
ก็เพราะความอึดทนทานในการเดินและ
วิ่งไล่ตามเหยื่อที่เป็นสัตว์อย่างไม่ลดละ
จนในที่สุดสัตว์ก็ทนไม่ไหว
ต้องล้มลงและเป็นอาหารในที่สุด

การเดินทนทานทำให้เกิดอาหารและ
มีพลังที่จะผลิตลูกหลาน
ยีนส์จากผู้แข็งแรงจากการเดินเหล่านี้
ถูกถ่ายทอดลงมาจนถึงพวกเรา
(มนุษย์ทุกคนมีประวัติศาสตร์ของครอบครัว
ที่ยาวเท่ากันคือประมาณ 7,500 ชั่วคน
หรือประมาณ 150,000 ปี
ของช่วงเวลาที่มีหน้าตาและ
รูปร่างเหมือนมนุษย์ในทุกวันนี้

คนที่คุยว่า
ตนเองมาจากครอบครัวที่เก่าแก่
กำลังลืมความจริงข้อนี้)

เมื่อนิสัยการเดินทนทาน
ฝังอยู่ในยีนของพวกเรา
จึงควรสนองตอบสืบทอดคุณลักษณะนี้ต่อไป
เพื่อความแข็งแรงของมนุษยชาติและของตัวเราเอง

การนั่งก้มหน้าตลอดเวลา
ดูสิ่งประดิษฐ์อัศจรรย์ในปัจจุบัน
ซึ่งเท่ากับเป็นการตัดสัมพันธ์กับ
มนุษย์คนอื่น ๆ ขัดแย้งกับ
ความเป็น “สัตว์สังคม” ของมนุษย์
ที่ทำให้เราอยู่รอดกันมา
โดยอยู่เป็น หมู่เหล่า
มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
มิฉะนั้นคงถูกสัตว์ร้ายฆ่าตายหมดแล้ว

หลักฐานงานศึกษาวิจัยมีท่วมท้นว่า

การนั่งเจ่าจุกบนเก้าอี้
การมีชีวิตที่รัก การกิน นั่ง
และนอนอย่างขาดความกระฉับกระเฉง
ไม่ชอบการออกกำลังกายและ
ไม่ชอบการเดิน คือ
การทำลายสุขภาพอย่างสำคัญ

★เดินให้มาก
★นั่งให้น้อย
★ไม่กินอาหารเกินพอดี
★มีชีวิตที่คึกคักกระฉับกระเฉงและ
★มีทัศนคติที่เป็นบวกต่อชีวิต
★ดูจะเป็นทางออกของการมีสุขภาพที่ดี
ถึงแม้จะทำให้คนที่อยากให้เรา
จากไปรำคาญมากขึ้นก็ตามที

◆◆จงมองเก้าอี้ด้วยความระแวง
เพราะมันคือฆาตกรตัวจริง◆◆

◆◆จงมองเก้าอี้ด้วยความระแวง

เพราะมันคือฆาตกรตัวจริง◆◆


(จากกรุงเทพธุรกิจ.ผู้เขียน
วรากรณ์ สามโกเศศ. ม.ธุรกิจบัณฑิตย์)


ไม่มีความคิดเห็น: