https://courseantiaging.blogspot.com/google.com,%20pub-3791389710662192,%20DIRECT,%20f08c47fec0942fa0 กันยายน 2018

โพสต์แนะนำ

วันเสาร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2561

Day 5-6-7 @ Weight loss course : ) เดินลดน้ำหนัก&เพื่อสุขภาพ



ได้จบคอร์ส 7 วัน สำหรับเดินออกกำลังกายลดน้ำหนักและเพื่อสุขภาพ
ต้องเดินตามคอร์สที่กำหนดไว้ให้ติดต่อกันจนครบ 7 วัน พร้อมกับควบคุม
อาหาร ทานแบบไดเอท เป็นอาหารคลีน หรืออาหารสโลว์ฟู้ด ง่ายๆ 

ทริค! การเดินออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก ก็คือต้องเดินเร็วจนได้เหงื่อ 
เวลาที่ดี! เริ่มเดิน 9-10 โมงเช้า ในขณะที่แสงแดดเริ่มจะแรง เดินติดต่อกัน
ตั้งแต่ 30 นาที ขึ้นไป มีกฎเหล็กจำนวนนับก้าวที่เดินต้องเพิ่มขึ้นๆในแต่ละวัน

เคล็ดลับ ! การทานอาหารไดเอท สำหรับมื้อเย็นไม่เกิน 6 โมงเย็น ไม่ทาน
อาหารที่เป็นแป้งทุกชนิด ทานเนื้อได้ กับทานผักผลไม้ต่างๆ ทานสุกี้ ชาบู ยำ
ทุกชนิด เว้นวุ้นเส้น ก็สามารถทานได้ โดยไม่ต้องทนหิว/อดอาหารเลยค่ะ

สรุปผล! เมื่อได้เดิน + ทานอาหารไดเอท ควบคู่กันไปติดต่อกันจนครบ 7 วันแล้ว
สิ่งที่ได้รับคือรูปร่างที่เฟิร์มกระชับ ไขมันบริเวณต้นแขน ต้นขา สะโพกลดลง
น้ำหนักก็ลดลงบ้างสำหรับคอร์ส 7 วัน(แรก) ประมาณ 0.5 - 1 กิโลกรัม 










วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2561

Day 3-4 @ Weight loss course : ) เดินลดน้ำหนัก&เพื่อสุขภาพ

คอร์ส 7 วัน เดินออกกำลังกาย
ลดน้ำหนักและเพื่อสุขภาพ
@ การกินอาหารไดเอท

การเดินวันที่ 3




เดินวันที่ 3 เวลา 10 : 00 น. ท้องฟ้าโปร่งใส แสงแดดค่อนข้างแรง
มีสายลมพัดให้เย็นสบาย รู้สึกได้สูดอากาศเต็มปอดเมื่อเดินผ่านร่มไม้ใหญ่
แสงแดดยามสาย ทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญไขมันส่วนเกินได้เป็นอย่างดี
ข้างล่างนี้เป็นสถิติการเดินแบบนับก้าว ตามกฎเหล็กที่ต้องเดินนับก้าวได้มากกว่า
เมื่อวานนี้ การเผาพลาญพลังงานแคลลอรี่มากขึ้น เวลาในการเดินนาทีเพิ่มขึ้น++









การเดินวันที่ 4 






เริ่มเดินวันที่ 4 เวลา 9:45 น. ท้องฟ้าโปร่ง แสงแดดจ้า เมฆมีเล็กน้อย 
สายลมพัดผ่านเย็นสดชื่นยามที่เมฆบังแดด ช่วงที่มีแสงแดดแรงก็รีบสปิดเท้า
ก้าวให้ไวๆ ให้ถึงตามเป้าหมายของวันนี้โดยเร็วๆ..นี่ก็อาจจะเป็นทริค ! เล็ก ๆ
ในข้อดีอีกข้อหนึ่งของ "แสงแดด" ที่ทำให้เกิดพลังในการก้าวเดินได้เร็วมากขึ้น
การเผาผลาญพลังงานได้ดียิ่งขึ้น อย่าลืม ! ทาครีมกันแดดก่อนที่จะก้าวเท้าเดิน!






วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2561

คอร์สลดน้ำหนัก&สุขภาพ : )Weight Loss Course Day 2.





วันที่ 2 ในการ เดินออกกำลังกายลดน้ำหนัก และเพื่อสุขภาพ
เช้าวันนี้...ตื่นขึ้นมารู้สึกสมองปลอดโปร่ง ไม่เหมือนเช่นเมื่อก่อนๆ
ตอนที่ไม่ได้ออกกำลังก็จะ มึนๆ งงๆ กับการจะทำอะไรก่อน-หลัง 
ในภารทำภารกิจยามเช้าในการจัดเตรียมอาหารในครัวอยู่เป็นประจำ 

 ตั้งใจจะไปเดินออกกำลังกายเวลาสัก 09.00 น. เห็นเคล็ดลับการเดินว่า
เวลาที่เหมาะสมเดินออกกำลังกายที่สุดเป็นเวลา 10.00 น. จึงปรับเวลา
ให้เหมาะสมกับตัวเองแล้วคิดว่าเวลานี้น่าจะเหมาะสมที่สุดสำหรับตัวเรา
ที่มีเวลาเยอะเป็นคนวัยเกษียณ  ส่วนคนทำงานก็สามารถทำได้ในวันหยุด 




หลังตื่นนอนวันนี้(สายหน่อย) เมื่อได้ทำภารกิจส่วนตัวและจัดเตรียม
อาหารเช้าที่ตั้งใจทานกันแบบไดเอทง่ายๆ (ควรได้รับอาหารครบ 5 หมู่)
ตบท้ายเบาๆ ด้วยกาแฟ และน้ำเย็น 2 แก้ว ...รอสัก 30 นาที ก็เป็นเวลาเริ่ม
ที่จะเดินออกกำลังกายไปรับวิตามินดีให้แก่ร่างกาย ด้วยแสงแดดยามเช้า

เดินไปก็พยายามจัดท่าการเดินให้ถูกวิธีไปด้วย ตัวตรง ตามองตรง
 ประมาณ 20 เมตร แต่มักจะเผลอมองทางเดิน เพราะทางเดินในไร่ไม่เรียบ
มีทางเดินของมดขวางอยู่เป็นระยะ ได้สังเกตุเห็นว่าทำให้ลำตัวเอนไปข้างหน้า
ไม่ถูกลักษณะของการเดิน จึงต้องมีการดึงสติของตัวเองควบคู่กับการเดินด้วย

สิ่งสำคัญในการเดินลดน้ำหนักควรเดินเร็ว เดินในขณะที่ยังมีแสงแดดพอดี
ก็จะทำให้มีเหงื่อออกเบาตัว และร่างกายก็จะเกิดการเผาผลาญได้ดียิ่งขึ้น
ได้มีการกำหนดกฎเหล็กว่าการเดินวันต่อไป จะต้อง"เดินนับก้าวได้มากกว่าเดิม"
เผาพลาญพลังงานต้องมากกว่าเมื่อวาน! ทริค! นี้จึงจะนำไปสู่ Goal ความสำเร็จ !










คอร์สเดินลดน้ำหนัก&สุขภาพ : )Weight Loss Course (Day 1)







วันแรกของการเดินเพื่อสุขภาพ + ลดน้ำหนัก เริ่มเดินตอนเช้า
เวลา 8 am. เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามิน D จากแสงแดดยามเช้า
การแต่งกาย เสื้อกางเกง และรองเท้า พร้อมเดินออกกำลังกาย
 และทาครีมกันแดดไว้นิดนึง ! มี 7 เทคนิคการเดินแบบถูกวิธี


เปิดแอพการเดินนับก้าว และเครื่องมือนับจำนวนแคลลอรี่ที่ลดไป
เพื่อบันทึกสถิติการเดินในแต่ละวันไว้ด้วย...นี่ก็เป็นทริค ! อย่างหนึ่ง
ที่ทำให้เรามีความรู้สึกอยากเดินทุกวันๆ เพื่อจะได้บันทึกสถิติการเดิน
หรืออาจเป็นกุศโลบายให้อยากจะเดินกันได้อีกอย่างหนึ่ง !



ในการเดินลดน้ำหนัก " ยิ่งเดิน ยิ่งผอม " 

 1. เดินเร็ววันละ 30 นาที - 60 นาที
2.  เดินอย่างสม่ำเสมอทุกวัน อย่างน้อยวันละ 2-3 กม.
3. การเดินที่ดีคือตอนเช้า เดินก่อน/หลัง อาหารเช้า 10 am.


เชิญชมคลิปวิดีโอ
การเดินลดน้ำหนัก & เพื่อสุขภาพ {ยามเช้า} 
ณ บ้านไร่ ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม
* สีเขียวสดใส สดชื่น *
@ เสียงนกร้อง คลอเสียงไก่ขัน @




สรุปวันนี้เดินได้ รวม 3,767 ก้าว 
2.41 กิโลเมตร ไขมันลดไป 128.6 กิโลแคล 
ระยะเวลาที่เดิน 34 นาที




การเดินออกกำลังกาย ควบคู่ไปกับการไดเอท


: )ควรได้รับสารอาหารครบ 5 หมู่ ทานผักสดเยอะๆ

เมนูเช้านี้ (ตย.)

ขนมปัง โฮลวีต  2  แผ่น + สาหร่ายทอดกรอบ 4 ชิ้น
ผลไม้ = แก้วมังกรแดง 1  ลูก
กาแฟ  1  แก้ว + น้ำเย็น 2  แก้ว


: ) ให้เน้นเนื้อสัตว์ ผักและผลไม้ (ทานน้อย)

เมนูกลางวันนี้ (ตย.)






ปีกไก่ส่วนบนนึ่ง 3 ชิ้น + หน่อไม้ไร่นึ่ง 
น้ำปลามะนาวพริกขี้หนู + ใส่กระเทียมโทนดอง
ผลไม้ = แก้วมังกรแดง 1 ลูก
น้ำเย็นๆ 2 แก้ว


: ) ทานปลา ทานผักสด (ให้ทานน้อยๆ)
ควรทานอาหารก่อน 6 โมง เย็น จร้า !






1.การเดินออกกำลังนั้น ลำตัวต้องตั้งตรง ไม่โน้มไปข้างหน้า
หรือทิ้งน้ำหนักไปข้างหลัง ยืดตัวให้เต็มที่ หลังต้องไม่งอ
2.ตามองตรงไปข้างหน้าในระยะประมาณ 20 เมตร
3.ไหล่ไม่ห่อ โดยให้ผายออกไปด้านหลังเล็กน้อย ในขณะเดิน
ให้ไหล่ยกขึ้น และปล่อยลงตามสบายไม่ต้องเกร็ง
4.แกว่งแขนขณะเดิน ต้องงอข้อศอกประมาณ 90 ํ กำมือหลวมๆ ไม่ต้องเกร็ง
5.ขณะเดินต้องแกว่งแขนไปในทิศตรงกันข้ามกับขา และต้องแกว่ง
ให้อยู่ในแนวตรงหน้าหลัง รวมทั้งให้ข้อศอกอยู่ชิดลำตัวให้มากที่สุด
6.การลงเท้าในขณะเดิน ต้องให้ส้นเท้าแตะพื้นก่อน 
แล้วค่อยลงน้ำหนักไปที่อุ้งเท้าและปลายเท้า
7.ขณะเดินต้องก้าวเท้าให้สั้นลง และเดินให้กระชั้นขึ้น วิธีนี้จะช่วย
ให้ผู้เดินสบายที่สุด ผ่อนคลายที่สุด และออกกำลังได้สมบูรณ์ที่สุด


วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2561

7 Days! คอร์สลดน้ำหนัก&สุขภาพ : ) Weight Loss Course (ที่มา...)

7 Days ! Weight loss course & Good health

Course for 55 Years Up +++ Years


เกือบ 1 ปี ที่มีสุขภาพกายใจดี จนกระทั่งเผลอไป..ทำให้หลงลืมตัว !
คิดแต่เพียงอยากพักผ่อนสบายๆ ไม่ออกกำลังกาย ไม่ไหว้พระสวดมนตร์
ทำแต่งานอดิเรกที่ชอบ เพื่อไม่ให้รู้สึกไร้ค่าไร้ความหมายในชีวิตจนเกินไป
นั่นก็คือ อยูู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ทำงานที่เกี่ยวกับบล็อกเกอร์ และยูทูปเบอร์


ดูนั่นชมนี่ทางอินเทอร์เน็ตไปวันๆ ได้มาคิดย้อนดูพฤติกรรมประจำวัน
ของตัวเองแล้ว มักนั่งอยู่หน้าจอคอมฯเป็นส่วนมาก โดยที่ไม่รู้ตัวว่าการที่นั่ง
บนเก้าอี้นิ่งๆ ธรรมดาๆ เป็นเวลานานๆนั้นมันอันตรายกับชีวิตคนเราเป็นอย่างยิ่ง 
อ้างอิงมาจากงานวิจัย ! ในหลายสถาบันบอกว่าการนั่งมากกว่าครึ่งวันในแต่ละวัน


เป็นบ่อเกิดแห่งโรคต่างๆ เสี่ยงจากการเป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคอ้วน
การนั่งเป็นเวลานานๆ ไม่สอดคล้องกับร่างกายของมนุษย์ที่ถูกออกแบบมา
คือ ธรรมชาติสร้างให้มนุษย์เคลื่อนไหวเดินไปเดินมา มีความกระฉับกระเฉง 
การนั่งแบบนานๆไม่เคลื่อนไหว ทำให้ระบบการทำงานเผาผลาญในร่างกายช้าลง


ได้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นจากเดิม 58 เป็น 63 กิโลกรัม ในวัยเกิน 55 ปี +++ 
เกิดสัญญาณเตือนจากร่างกายขึ้นมา เดินอยู่ดีๆช้าๆ ยังลื่นล้ม ตาเห็นเท้า
ของตัวเองพลิกฟาดกับบันไดหน้าโลตัสฯ หูได้ยินคนแถวนั้นร้องเสียงหลง!
ตัวเราลงไปนั่งจุมปุ๊กอยู่ตรงขั้นบันไดสุดท้าย แบบไม่ทันตั้งตัวกันเลยทีเดียว


ต้องนั่งอยู่ท่านั้นเกือบจะสิบนาที เพราะรู้สึกถึงความเจ็บปวด เมื่อพอที่จะ
ลุกได้ก็ค่อยๆเดินไปขึ้นรถ ความเจ็บปวดนั้นก็ยังคงอยู่ อีกประมาณ 5 นาที ไปถึง
บ้านพักลูก ได้ยาหม่องแซมบัค ทานวด และกินยาแก้กล้ามเนื้ออักเสบอีกเม็ด
พักเดียวก็รู้สึกว่าความเจ็บปวดนั้นเบาลงๆๆ ก็เลยเบาใจขึ้นว่าคงไม้ต้องถึงมือหมอ


อีก 2 วันถัดมา รู้สึกมึนหัวในตอนกลางวัน กลางคืนเข้านอนพลิกตัวรู้สึกเวียนหัว
จึงหายาแก้เวียนหัวมากินเม็ดนึง แล้วก็เข้านอนหลับไปด้วยฤทธิ์ยา  ตื่นตอนเช้ามา
ลุกขึ้นนั่งในที่นอนจะรวบผม จึงรู้สึกว่าเวียนหัวบ้านจะหมุน เลยหลับตานิ่งๆ ก่อน
คิดว่าเริ่มมีอาการบ้านหมุน จึงเอนตัวลงนอนท่าเดิมแต่เหมือนถูกผลักหัวลงไปเลย


เรียกคนที่บ้านเข้ามาหยิบยาและน้ำให้ หลังจากกินยาไปแล้วสัก 20 นาที คิดว่ายาคง
ออกฤทธิ์แล้วก็จัดท่าจะลุกขึ้น พร้อมกับได้อธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ครูบาอาจารย์ว่า ขอ
"โอกาสให้ลูกได้แก้ตัว" อย่าเพิ่งล้มป่วยอะไรตอนนี้.....สัญญาว่า จะดูแลรักษาสุขภาพ
เปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของตัวเองใหม่จะจัดสรรให้เวลาเพื่อ รักษากาย+ใจ




โปรดติดตามบล็อกต่อไป...<คอร์สลดน้ำหนัก&สุขภาพ : )Weight Loss Course (Day 1)