https://courseantiaging.blogspot.com/google.com,%20pub-3791389710662192,%20DIRECT,%20f08c47fec0942fa0 คอร์ส Anti-aging

โพสต์แนะนำ

วันเสาร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2561

Day 5-6-7 @ Weight loss course : ) เดินลดน้ำหนัก&เพื่อสุขภาพ



ได้จบคอร์ส 7 วัน สำหรับเดินออกกำลังกายลดน้ำหนักและเพื่อสุขภาพ
ต้องเดินตามคอร์สที่กำหนดไว้ให้ติดต่อกันจนครบ 7 วัน พร้อมกับควบคุม
อาหาร ทานแบบไดเอท เป็นอาหารคลีน หรืออาหารสโลว์ฟู้ด ง่ายๆ 

ทริค! การเดินออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก ก็คือต้องเดินเร็วจนได้เหงื่อ 
เวลาที่ดี! เริ่มเดิน 9-10 โมงเช้า ในขณะที่แสงแดดเริ่มจะแรง เดินติดต่อกัน
ตั้งแต่ 30 นาที ขึ้นไป มีกฎเหล็กจำนวนนับก้าวที่เดินต้องเพิ่มขึ้นๆในแต่ละวัน

เคล็ดลับ ! การทานอาหารไดเอท สำหรับมื้อเย็นไม่เกิน 6 โมงเย็น ไม่ทาน
อาหารที่เป็นแป้งทุกชนิด ทานเนื้อได้ กับทานผักผลไม้ต่างๆ ทานสุกี้ ชาบู ยำ
ทุกชนิด เว้นวุ้นเส้น ก็สามารถทานได้ โดยไม่ต้องทนหิว/อดอาหารเลยค่ะ

สรุปผล! เมื่อได้เดิน + ทานอาหารไดเอท ควบคู่กันไปติดต่อกันจนครบ 7 วันแล้ว
สิ่งที่ได้รับคือรูปร่างที่เฟิร์มกระชับ ไขมันบริเวณต้นแขน ต้นขา สะโพกลดลง
น้ำหนักก็ลดลงบ้างสำหรับคอร์ส 7 วัน(แรก) ประมาณ 0.5 - 1 กิโลกรัม 










วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2561

Day 3-4 @ Weight loss course : ) เดินลดน้ำหนัก&เพื่อสุขภาพ

คอร์ส 7 วัน เดินออกกำลังกาย
ลดน้ำหนักและเพื่อสุขภาพ
@ การกินอาหารไดเอท

การเดินวันที่ 3




เดินวันที่ 3 เวลา 10 : 00 น. ท้องฟ้าโปร่งใส แสงแดดค่อนข้างแรง
มีสายลมพัดให้เย็นสบาย รู้สึกได้สูดอากาศเต็มปอดเมื่อเดินผ่านร่มไม้ใหญ่
แสงแดดยามสาย ทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญไขมันส่วนเกินได้เป็นอย่างดี
ข้างล่างนี้เป็นสถิติการเดินแบบนับก้าว ตามกฎเหล็กที่ต้องเดินนับก้าวได้มากกว่า
เมื่อวานนี้ การเผาพลาญพลังงานแคลลอรี่มากขึ้น เวลาในการเดินนาทีเพิ่มขึ้น++









การเดินวันที่ 4 






เริ่มเดินวันที่ 4 เวลา 9:45 น. ท้องฟ้าโปร่ง แสงแดดจ้า เมฆมีเล็กน้อย 
สายลมพัดผ่านเย็นสดชื่นยามที่เมฆบังแดด ช่วงที่มีแสงแดดแรงก็รีบสปิดเท้า
ก้าวให้ไวๆ ให้ถึงตามเป้าหมายของวันนี้โดยเร็วๆ..นี่ก็อาจจะเป็นทริค ! เล็ก ๆ
ในข้อดีอีกข้อหนึ่งของ "แสงแดด" ที่ทำให้เกิดพลังในการก้าวเดินได้เร็วมากขึ้น
การเผาผลาญพลังงานได้ดียิ่งขึ้น อย่าลืม ! ทาครีมกันแดดก่อนที่จะก้าวเท้าเดิน!






วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2561

คอร์สลดน้ำหนัก&สุขภาพ : )Weight Loss Course Day 2.





วันที่ 2 ในการ เดินออกกำลังกายลดน้ำหนัก และเพื่อสุขภาพ
เช้าวันนี้...ตื่นขึ้นมารู้สึกสมองปลอดโปร่ง ไม่เหมือนเช่นเมื่อก่อนๆ
ตอนที่ไม่ได้ออกกำลังก็จะ มึนๆ งงๆ กับการจะทำอะไรก่อน-หลัง 
ในภารทำภารกิจยามเช้าในการจัดเตรียมอาหารในครัวอยู่เป็นประจำ 

 ตั้งใจจะไปเดินออกกำลังกายเวลาสัก 09.00 น. เห็นเคล็ดลับการเดินว่า
เวลาที่เหมาะสมเดินออกกำลังกายที่สุดเป็นเวลา 10.00 น. จึงปรับเวลา
ให้เหมาะสมกับตัวเองแล้วคิดว่าเวลานี้น่าจะเหมาะสมที่สุดสำหรับตัวเรา
ที่มีเวลาเยอะเป็นคนวัยเกษียณ  ส่วนคนทำงานก็สามารถทำได้ในวันหยุด 




หลังตื่นนอนวันนี้(สายหน่อย) เมื่อได้ทำภารกิจส่วนตัวและจัดเตรียม
อาหารเช้าที่ตั้งใจทานกันแบบไดเอทง่ายๆ (ควรได้รับอาหารครบ 5 หมู่)
ตบท้ายเบาๆ ด้วยกาแฟ และน้ำเย็น 2 แก้ว ...รอสัก 30 นาที ก็เป็นเวลาเริ่ม
ที่จะเดินออกกำลังกายไปรับวิตามินดีให้แก่ร่างกาย ด้วยแสงแดดยามเช้า

เดินไปก็พยายามจัดท่าการเดินให้ถูกวิธีไปด้วย ตัวตรง ตามองตรง
 ประมาณ 20 เมตร แต่มักจะเผลอมองทางเดิน เพราะทางเดินในไร่ไม่เรียบ
มีทางเดินของมดขวางอยู่เป็นระยะ ได้สังเกตุเห็นว่าทำให้ลำตัวเอนไปข้างหน้า
ไม่ถูกลักษณะของการเดิน จึงต้องมีการดึงสติของตัวเองควบคู่กับการเดินด้วย

สิ่งสำคัญในการเดินลดน้ำหนักควรเดินเร็ว เดินในขณะที่ยังมีแสงแดดพอดี
ก็จะทำให้มีเหงื่อออกเบาตัว และร่างกายก็จะเกิดการเผาผลาญได้ดียิ่งขึ้น
ได้มีการกำหนดกฎเหล็กว่าการเดินวันต่อไป จะต้อง"เดินนับก้าวได้มากกว่าเดิม"
เผาพลาญพลังงานต้องมากกว่าเมื่อวาน! ทริค! นี้จึงจะนำไปสู่ Goal ความสำเร็จ !










คอร์สเดินลดน้ำหนัก&สุขภาพ : )Weight Loss Course (Day 1)







วันแรกของการเดินเพื่อสุขภาพ + ลดน้ำหนัก เริ่มเดินตอนเช้า
เวลา 8 am. เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามิน D จากแสงแดดยามเช้า
การแต่งกาย เสื้อกางเกง และรองเท้า พร้อมเดินออกกำลังกาย
 และทาครีมกันแดดไว้นิดนึง ! มี 7 เทคนิคการเดินแบบถูกวิธี


เปิดแอพการเดินนับก้าว และเครื่องมือนับจำนวนแคลลอรี่ที่ลดไป
เพื่อบันทึกสถิติการเดินในแต่ละวันไว้ด้วย...นี่ก็เป็นทริค ! อย่างหนึ่ง
ที่ทำให้เรามีความรู้สึกอยากเดินทุกวันๆ เพื่อจะได้บันทึกสถิติการเดิน
หรืออาจเป็นกุศโลบายให้อยากจะเดินกันได้อีกอย่างหนึ่ง !



ในการเดินลดน้ำหนัก " ยิ่งเดิน ยิ่งผอม " 

 1. เดินเร็ววันละ 30 นาที - 60 นาที
2.  เดินอย่างสม่ำเสมอทุกวัน อย่างน้อยวันละ 2-3 กม.
3. การเดินที่ดีคือตอนเช้า เดินก่อน/หลัง อาหารเช้า 10 am.


เชิญชมคลิปวิดีโอ
การเดินลดน้ำหนัก & เพื่อสุขภาพ {ยามเช้า} 
ณ บ้านไร่ ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม
* สีเขียวสดใส สดชื่น *
@ เสียงนกร้อง คลอเสียงไก่ขัน @




สรุปวันนี้เดินได้ รวม 3,767 ก้าว 
2.41 กิโลเมตร ไขมันลดไป 128.6 กิโลแคล 
ระยะเวลาที่เดิน 34 นาที




การเดินออกกำลังกาย ควบคู่ไปกับการไดเอท


: )ควรได้รับสารอาหารครบ 5 หมู่ ทานผักสดเยอะๆ

เมนูเช้านี้ (ตย.)

ขนมปัง โฮลวีต  2  แผ่น + สาหร่ายทอดกรอบ 4 ชิ้น
ผลไม้ = แก้วมังกรแดง 1  ลูก
กาแฟ  1  แก้ว + น้ำเย็น 2  แก้ว


: ) ให้เน้นเนื้อสัตว์ ผักและผลไม้ (ทานน้อย)

เมนูกลางวันนี้ (ตย.)






ปีกไก่ส่วนบนนึ่ง 3 ชิ้น + หน่อไม้ไร่นึ่ง 
น้ำปลามะนาวพริกขี้หนู + ใส่กระเทียมโทนดอง
ผลไม้ = แก้วมังกรแดง 1 ลูก
น้ำเย็นๆ 2 แก้ว


: ) ทานปลา ทานผักสด (ให้ทานน้อยๆ)
ควรทานอาหารก่อน 6 โมง เย็น จร้า !






1.การเดินออกกำลังนั้น ลำตัวต้องตั้งตรง ไม่โน้มไปข้างหน้า
หรือทิ้งน้ำหนักไปข้างหลัง ยืดตัวให้เต็มที่ หลังต้องไม่งอ
2.ตามองตรงไปข้างหน้าในระยะประมาณ 20 เมตร
3.ไหล่ไม่ห่อ โดยให้ผายออกไปด้านหลังเล็กน้อย ในขณะเดิน
ให้ไหล่ยกขึ้น และปล่อยลงตามสบายไม่ต้องเกร็ง
4.แกว่งแขนขณะเดิน ต้องงอข้อศอกประมาณ 90 ํ กำมือหลวมๆ ไม่ต้องเกร็ง
5.ขณะเดินต้องแกว่งแขนไปในทิศตรงกันข้ามกับขา และต้องแกว่ง
ให้อยู่ในแนวตรงหน้าหลัง รวมทั้งให้ข้อศอกอยู่ชิดลำตัวให้มากที่สุด
6.การลงเท้าในขณะเดิน ต้องให้ส้นเท้าแตะพื้นก่อน 
แล้วค่อยลงน้ำหนักไปที่อุ้งเท้าและปลายเท้า
7.ขณะเดินต้องก้าวเท้าให้สั้นลง และเดินให้กระชั้นขึ้น วิธีนี้จะช่วย
ให้ผู้เดินสบายที่สุด ผ่อนคลายที่สุด และออกกำลังได้สมบูรณ์ที่สุด


วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2561

7 Days! คอร์สลดน้ำหนัก&สุขภาพ : ) Weight Loss Course (ที่มา...)

7 Days ! Weight loss course & Good health

Course for 55 Years Up +++ Years


เกือบ 1 ปี ที่มีสุขภาพกายใจดี จนกระทั่งเผลอไป..ทำให้หลงลืมตัว !
คิดแต่เพียงอยากพักผ่อนสบายๆ ไม่ออกกำลังกาย ไม่ไหว้พระสวดมนตร์
ทำแต่งานอดิเรกที่ชอบ เพื่อไม่ให้รู้สึกไร้ค่าไร้ความหมายในชีวิตจนเกินไป
นั่นก็คือ อยูู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ทำงานที่เกี่ยวกับบล็อกเกอร์ และยูทูปเบอร์


ดูนั่นชมนี่ทางอินเทอร์เน็ตไปวันๆ ได้มาคิดย้อนดูพฤติกรรมประจำวัน
ของตัวเองแล้ว มักนั่งอยู่หน้าจอคอมฯเป็นส่วนมาก โดยที่ไม่รู้ตัวว่าการที่นั่ง
บนเก้าอี้นิ่งๆ ธรรมดาๆ เป็นเวลานานๆนั้นมันอันตรายกับชีวิตคนเราเป็นอย่างยิ่ง 
อ้างอิงมาจากงานวิจัย ! ในหลายสถาบันบอกว่าการนั่งมากกว่าครึ่งวันในแต่ละวัน


เป็นบ่อเกิดแห่งโรคต่างๆ เสี่ยงจากการเป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคอ้วน
การนั่งเป็นเวลานานๆ ไม่สอดคล้องกับร่างกายของมนุษย์ที่ถูกออกแบบมา
คือ ธรรมชาติสร้างให้มนุษย์เคลื่อนไหวเดินไปเดินมา มีความกระฉับกระเฉง 
การนั่งแบบนานๆไม่เคลื่อนไหว ทำให้ระบบการทำงานเผาผลาญในร่างกายช้าลง


ได้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นจากเดิม 58 เป็น 63 กิโลกรัม ในวัยเกิน 55 ปี +++ 
เกิดสัญญาณเตือนจากร่างกายขึ้นมา เดินอยู่ดีๆช้าๆ ยังลื่นล้ม ตาเห็นเท้า
ของตัวเองพลิกฟาดกับบันไดหน้าโลตัสฯ หูได้ยินคนแถวนั้นร้องเสียงหลง!
ตัวเราลงไปนั่งจุมปุ๊กอยู่ตรงขั้นบันไดสุดท้าย แบบไม่ทันตั้งตัวกันเลยทีเดียว


ต้องนั่งอยู่ท่านั้นเกือบจะสิบนาที เพราะรู้สึกถึงความเจ็บปวด เมื่อพอที่จะ
ลุกได้ก็ค่อยๆเดินไปขึ้นรถ ความเจ็บปวดนั้นก็ยังคงอยู่ อีกประมาณ 5 นาที ไปถึง
บ้านพักลูก ได้ยาหม่องแซมบัค ทานวด และกินยาแก้กล้ามเนื้ออักเสบอีกเม็ด
พักเดียวก็รู้สึกว่าความเจ็บปวดนั้นเบาลงๆๆ ก็เลยเบาใจขึ้นว่าคงไม้ต้องถึงมือหมอ


อีก 2 วันถัดมา รู้สึกมึนหัวในตอนกลางวัน กลางคืนเข้านอนพลิกตัวรู้สึกเวียนหัว
จึงหายาแก้เวียนหัวมากินเม็ดนึง แล้วก็เข้านอนหลับไปด้วยฤทธิ์ยา  ตื่นตอนเช้ามา
ลุกขึ้นนั่งในที่นอนจะรวบผม จึงรู้สึกว่าเวียนหัวบ้านจะหมุน เลยหลับตานิ่งๆ ก่อน
คิดว่าเริ่มมีอาการบ้านหมุน จึงเอนตัวลงนอนท่าเดิมแต่เหมือนถูกผลักหัวลงไปเลย


เรียกคนที่บ้านเข้ามาหยิบยาและน้ำให้ หลังจากกินยาไปแล้วสัก 20 นาที คิดว่ายาคง
ออกฤทธิ์แล้วก็จัดท่าจะลุกขึ้น พร้อมกับได้อธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ครูบาอาจารย์ว่า ขอ
"โอกาสให้ลูกได้แก้ตัว" อย่าเพิ่งล้มป่วยอะไรตอนนี้.....สัญญาว่า จะดูแลรักษาสุขภาพ
เปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของตัวเองใหม่จะจัดสรรให้เวลาเพื่อ รักษากาย+ใจ




โปรดติดตามบล็อกต่อไป...<คอร์สลดน้ำหนัก&สุขภาพ : )Weight Loss Course (Day 1)



วันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2561

7 กิโล@วิธีการออกกำลังกาย(สำหรับหญิงสูงวัย) ฟิตเนสในบ้านง่ายๆ



7 เดือน ลด 7 kg. @เซทออกกำลังกาย
Healthy weight loss for old lady.






สาธิตวิธีออกกำลังกาย
การลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพ เหมาะสำหรับผู้หญิงสูงวัย






เมื่อคนเรามีอายุมากขึ้น อาหารที่กินเข้าไปในร่างกาย
ไม่ได้รับการเผาผลาญ และเกิดเป็นพลังงานที่ร่างกายนำไปใช้
ก็มักจะสะสมเป็นแป้งและไขมันเกาะอยู่ตามท้อง สะโพก ต้นแขน ต้นขา

ดังนั้น จึงมักจะเห็นคนสูงวัย ไม่ว่าผู้หญิง หรือผู้ชาย ส่วนมาก
มักจะอ้วนลงพุง มีน้ำหนักมากขึ้นๆๆ และจะทำให้เกิดโรคภัยต่างๆตามมา
เราจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่ต้องควบคุมการกินอาหารในแต่ละวัน

พร้อมกับการออกกำลังกายอยู่สม่ำเสมอ ควบคู่กันไปกับการควบคุมอาหาร
เราก็จะขจัดไขมันส่วนเกินออกไปได้ ด้วยวิธีธรรมชาติ มีความปลอดภัย
ที่สำคัญคือไม่ต้องใช้จ่ายเงินไปกับเรื่องสุขภาพ มากเกินความจำเป็น 

การใส่ใจดูแลสุขภาพร่างกายได้อย่างต่อเนื่อง ก็จะทำให้เรามีสุขภาพร่างกาย
ที่แข็งแรงสมบูรณ์ ปลอดโรคภัยไข้เจ็บที่่จะมาเบียดเบียน ไม่เจ็บป่วยไม่ต้องรักษา 
ซึ่งจะทำให้เสียเงินเสียเวลา ไปมากกว่า"การป้องกันดูแลสุขภาพ"ไว้แต่เนิ่นๆ






ชมวิธีการออกกำลังกายด้วยคลิปวิดีโอนี้ค่ะ

เพื่อลดน้ำหนัก..สำหรับหญิงสูงวัย

(English Subtitle)



https://www.youtube.com/watch?v=f390WZSs8Gg


การใช้อุปกรณ์สำหรับการออกกำลังกาย

ใช้อุปกรณ์ที่เรามีอยู่ / สามารถหาซื้อได้ง่ายๆ หรืออาจจะใช้อุปกรณ์
ที่มีใช้อยู่แล้ว และได้ผลใกล้เคียงกันกับที่แนะนำ มาทดแทนก็สามารถทำได้
 และทำเองได้ง่ายๆที่บ้านของเราค่ะ












อุปกรณ์ที่ใช้มีอยู่ 3 ชนิด คือ

1. เครื่องออกกำลังแบบม้าโยก
2. เชือกกระโดด
3. ดัมเบล(หุ้มยาง) มีน้ำหนักข้างละประุมาณ 2.3 กิโลกรัม


วิธีการออกกำลังกาย

1. อุปกรณ์เครื่องม้าโยก  (ใช้เวลารวม 30 นาที)

ให้ถีบม้าโยกด้วยท่าแขนตรง ตัวตรง และขาเหยียดตรง
ถึบไปแบบปกติธรรมดา ประมาณ 10 นาที
หลังจากนั้น ให้ถีบด้วยความเร็วอีก ประมาณ 10 นาที
และสลับความเร็วมาเป็นปกติ อีก 10 นาที


2. เชือกกระโดด 

ฝึกหัดกระโดดเชือกให้ได้ติดต่อกัน ประมาณ 50-100 ครั้ง


3. ดัมเบล (ยกดัมเบล รวมประมาณ 600 ครั้ง)

1 เซ็ท มีอยู่ 4 สะเต็บ
** ทำซ้ำ สะเต็บที่ 1 , 2 **

Step. 1 " เหยียดแขนลงไปด้านข้างลำตัว ซ้าย-ขวา " = 100 ครั้ง

Step. 2 " เหวี่ยงสุดแขนไปด้านหลัง ซ้าย-ขวา " = 100 ครั้ง

Step. 3 " ยกแขนตรงขึ้นไปเหนือศรีษะ" = 100 ครั้ง

Step. 4 " บริหารกล้ามเนื้อหน้าอก " = 100 ครั้ง

**ให้ทำซ้ำ Step. 1 และStep. 2  อีกสะเต็บละ 100+100 ครั้ง


Step. 1 
" เหยียดแขนลงไปด้านข้างลำตัว ซ้าย-ขวา "
 = 100 ครั้ง







Step. 2 
" เหวี่ยงสุดแขนไปด้านหลัง ซ้าย-ขวา " 
= 100 ครั้ง







Step. 3 
" ยกแขนตรงขึ้นไปเหนือศรีษะ"
 = 100 ครั้ง







Step. 4 
" บริหารกล้ามเนื้อหน้าอก "
 = 100 ครั้ง






นี่เป็นวิธีการออกกำลังกาย แบบฟิตเนส ในบ้าน 
แบบง่ายๆเหมาะกับผู้หญิงสูงวัย ที่รักการออกกำลังกาย 
ซึ่งได้ออกกำลังกายแบบนี้
มาประมาณ 7 เดือน น้ำหนักลดลงถึง 7 กิโลกรัม 
กล้ามเนื้อกระชับขึ้น  จึงเป็น
 " วิธีลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพ" 
จริงๆค่ะ


วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2561

7 สูตร "พอกหน้า" ....บอกลาหน้าสิว !!

สูตรพอกหน้า (ทำเอง) จากธรรมชาติ




จะช่วยทำให้หน้าที่เป็นสิว และรอยแผลเป็น รอยด่างดำต่างๆ บนใบหน้า
มีผิวหน้าที่ใสเปล่งปลั่งสุขภาพดีขึ้น จะลดปัญหารอยดำแผลเป็นได้เป็นอย่างดี

โดยไม่ต้องกังวลว่าหากใช้แล้วสิวจะเห่อขึ้น กว่าเดิมหรือไม่ !?....

สูตรพอกหน้านี้จะเน้นจากผลไม้ สิ่งธรรมชาติล้วนๆ  หากเราใช้อย่างถูกวิธี
ใช้ผลไม้สด และสะอาดทุกขั้นตอน รับรองว่าหน้าจะต้องดูดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ


(1)  สูตรคุมความมันบนใบหน้า

ใช้แตงโมสีแดง  1  ชิ้น

วิธีพอกหน้า

ฝานแตงโมเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วปั่นให้ละเอียด นำมาทาพอกหน้าให้ทั่วใบหน้า
ทิ้งไว้ประาณ  30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น  ความเย็นของแตงโมช่วย
ผ่อนคลายผิวด้านนอกให้สดชื่น  สารสีแดงของแตงโม
สามารถดูดซับความมันบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี


(2)  สูตรลดความมันบนใบหน้า

ใช้นมเปรี้ยว  1  ช้อนโต๊ะ

วิธีพอกหน้า

ล้างหน้าให้สะอาด แล้วนำนมเปรี้ยวที่แช่เย็นแล้ว มาพอกหน้า
ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที  หรือนานกว่านั้น หลังจากนั้นล้างหน้าด้วยน้ำสะอาด 
จะช่วยลดความมันบนใบหน้าได้ ช่วยให้ใบหน้าเปล่งปลั่งสวยใส


(3)  สูตรช่วยลดสิวรอยด่างดำ

ใช้เนื้อมะละกอสุก  1  โต๊ะ

วิธีพอกหน้า

นำมะละกอสุกมาบดให้ละเอียด พอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 30-40 นาที
แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด วิตามินจากมะละกอสุกจะช่วยลดสิว
ช่วยให้รูขุมขนกระชับ และลดรอยด่างดำ ทำให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ รูปภาพมะละกอสุก


(4)  สูตรลดการอักเสบของสิวและรอยดำ

ใช้มะเขือเทศสุก  1/2  ลูก

วิธีพอกหน้า

ฝานมะเขือเทศครึ่งผล แล้วถูให้ทั่วใใบหน้า เน้นบริเวณที่มีสิวเสี้ยน
สิวอักเสสสบ มะเขือเทศมีวิตามินซีกรด AHA  ช่วยชอกผิวที่ตายแล้ว
ให้หลุดออกได้เป็นอย่างดี 

ทาทิ้งไว้ประาณ 30 นาที  หลังจากนั้นจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด
จะช่วยดูดสิว และช่วยให้สิวอักเสบยุบลง
ลดสิวเสี้ยน ทำให้ผิวหน้าผ่องใส


(5)  สูตรดูดไขมันอุดตันลดสิว

ใช้ไข่แดง  1  ฟอง

วิธีพอกหน้า

ล้างหน้าให้สะอาด นำไข่แดงออกจากไข่ขาว แล้วตีให้เกิดฟอง
ทาให้ทั่วใบหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที  แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น
ไข่แดงมีโปรตีน และกรดไขมันมาก จะช่วยดูดไขมันอุดตัน   และขจัด
สิ่งอุดตันตามรูขุมขนออกไปได้เป็นอย่างดี


(6)  สูตรลดสิวดูดซับความมันส่วนเกิน


ใช้ส่วนผสมจาก 

น้ำผึ้ง  1  ช้อนโต๊ะ
ข้าวโอ๊ต  1/2  ช้อนโต๊ะ

วิธีพอกหน้า

สูตรนี้สำหรับคนที่มีผิวหน้้ามันมาก นำน้ำผึ้งผสมกับข้าวโอ๊ตบดละเอียด 
ทาให้ทั่วใบหน้าทิ้งไว้ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
ข้าวโอ๊ตจะช่วยในการดูดซับความมันบนใบหน้าและน้ำผึ้งช่วยลดสิว


รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

(7)  สูตรดูดสิวหน้าสดใส

ใช้ส่วนผสมจาก

มะนาว  1  ช้อนโต๊ะ
ดินสอพอง  1/2  ช้อนโต๊ะ

วิธีพอกหน้า

นำน้ำมะนาวสดผสมรวมกับดินสอพองบดละเอียด
ทาให้ทั่วใบหน้าทิ้งไว้ 30  นาที  หรือจนแห้ง  หลังจากนั้นให้ล้างออก
ด้วยน้ำสะอาด  จะช่วยในการดูดซับความมันบนใบหน้า 
ช่วยในการดูดสิวอักเสบได้เป็นอย่างดี


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ รูปพอกหน้า